ณ เวลาเที่ยงคืนของกำเนิดชีวิต

?– 0.001 น. ชีวิตใหม่อุบัติขึ้นลืมตาดูโลก? พร้อมกับเสียงร้องไห้ด้วย ?ความกลัว? ต่อภาวะความบีบคั้นเป็นทุกข์? ที่กำลังจะต้องเผชิญในวันเวลาต่อแต่นี้ไปอีก ?หนึ่งรอบวัฎจักร?
12
– พระพุทธศาสนาถือว่า ?จิตวิญญาณเป็นประธานของสิ่งทั้งหลายทั้งปวง?? จิตวิญญาณหรือ ?วิญญาณธาตุ?? คือ ?ธาตุรู้? ที่เป็นสิ่งพื้นฐานอย่างหนึ่งของเอกภพ (เช่นเดียวกับสสารและพลังงาน)? โดยมีคุณสมบัติสามารถจะ ?รับรู้? และมีความ ?รู้สึก-นึก-คิด? (เวทนา- สัญญา- สังขาร) ต่อสรรพสิ่งที่ ?ถูกรู้? (รูป) ทั้งหลายทั้งปวง

– เอกภพจึงประกอบขึ้นจากขันธ์ทั้งห้าได้แก่ ? รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ? หรือกล่าวโดยย่อ? เอกภพเป็นปฏิสัมพันธ์ของสัมพัทธภาพ (Relativity) แห่ง ?รูป? (อวกาศและเวลาที่ถูกรู้) กับ ?นาม? (จิตที่เป็นผู้รู้)

?ความจริง? (reality) ของเอกภพที่เรารับรู้นั้น? มิใช่สิ่งที่ดำรงอยู่จริงอย่างเป็นภววิสัยหรือวัตถุวิสัย (objective)? โดยที่ไม่ขึ้นกับการรับรู้ของใคร? เหมือนเช่นสามัญสำนึกที่เราเห็นโต๊ะตั้งอยู่ในห้องตัวนี้? ซึ่งเราเห็นมันดำรงอยู่จริงด้วยตัวของมันเองเช่นนั้น? โดยไม่ว่าจะมีใครมาเห็นหรือไม่ก็ตาม โต๊ะก็ยังคงเป็นโต๊ะที่ตั้งอยู่นิ่งๆในห้องตรงนั้นและตั้งอยู่อย่างนั้นตลอดไป? ?เป็นต้น

– ไอน์สไตน์เป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่เปิดโลกทัศน์ใหม่เกี่ยวกับความจริงของเอกภพ? โดยทฤษฎีสัมพัทธภาพได้ชี้ให้เห็นว่า? เราไม่สามารถจะแยกความจริงของโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างหน้านี้จากตัวผู้สังเกต? เพราะถ้าเรายืนอยู่บนพื้นโลกที่กำลังเคลื่อนที่ไปด้วยการหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็ว? พร้อมกับโต๊ะ (และตัวเราก็กำลังเคลื่อนที่พร้อมกับโต๊ะด้วยความเร็วเท่ากัน อันเท่ากับความเร็วในการหมุนของโลก) ?เราจะสังเกตเห็น ?ความจริง? ของโต๊ะเป็นอย่างหนึ่ง? คือเป็นสิ่งที่ตั้งอยู่นิ่งๆในห้อง? แต่ถ้าเราออกไปอยู่ในยานอวกาศนอกโลกที่จอดนิ่ง (โดยไม่ได้เคลื่อนที่ไปตามการหมุนของโลก) เราก็จะสังเกตเห็นโต๊ะในห้องกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก? ซึ่งเท่ากับความเร็วในการหมุนของโลก ????แล้ว ?ความจริง? ของโต๊ะตัวนี้คืออะไรกันแน่? มันกำลังเคลื่อนที่หรือตั้งอยู่นิ่งๆ

– ถ้าใครไปถามคำถามนี้กับพระพุทธเจ้าว่าโต๊ะกำลังเคลื่อนที่หรือตั้งอยู่นิ่งๆ? พระพุทธองค์จะไม่ทรงตอบอย่างใดอย่างหนึ่ง? แต่จะยืนยันในสัจจะความจริงที่ทรงเรียกว่ากฎ? ?อิทัปปัจจยตา? อันคือ ?เมื่อสิ่งนี้มี ?สิ่งนี้จึงมี,? เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น? สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น,? เมื่อสิ่งนี้ไม่มี? สิ่งนี้ก็ไม่มี,? เพราะสิ่งนี้ดับไป? สิ่งนี้ก็ดับ(ด้วย)? ??เช่น เพราะเรายืนอยู่บนพื้นโลก ?และเรากำลังเคลื่อนที่ไปพร้อมกับโต๊ะตัวนี้ด้วยความเร็วที่เท่ากัน (?เมื่อสิ่งนี้มี? )? เราจึงสังเกตเห็นโต๊ะตั้งอยู่นิ่งๆ (?สิ่งนี้จึงมี?) ?แต่ถ้าเราไปอยู่บนยานอวกาศนอกโลก? โดยไม่ได้ยืนอยู่บนพื้นผิวของโลกซึ่งกำลังหมุนรอบตัวเองเช่นนี้? ?(?เมื่อสิ่งนี้ไม่มี? ) เราก็จะสังเกตเห็นว่าโต๊ะไม่ได้ตั้งอยู่นิ่งๆอีกต่อไป (?สิ่งนี้ก็ไม่มี? )? เป็นต้น

?เวลา? คือการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในอวกาศ? เช่น? เวลาหนึ่งชั่วโมงคือความเปลี่ยนแปลงของเข็มนาทีที่หมุนรอบหน้าปัดนาฬิกาครบหนึ่งรอบ? เวลาหนึ่งวันคือความเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออก? ตกทางทิศตะวันตก? แล้วโผล่พ้นขอบฟ้าในวันใหม่? ฯลฯ

?อวกาศ? เป็นความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งแห่งที่ของสิ่งต่างๆ? เช่น? อวกาศหรือที่ว่างภายในแก้วน้ำ? เกิดจากตำแหน่งความสัมพันธ์ของโครงสร้างที่ประกอบขึ้นเป็นแก้วน้ำนั้น ?โดยถ้าไม่มีโครงสร้างของแก้วน้ำ? ก็จะไม่มีอวกาศหรือที่ว่างภายในแก้ว ?เป็นต้น

– เวลาเท่ากับระยะทางหารด้วยความเร็ว? หรือเท่ากับระยะห่างของความเปลี่ยนแปลงจากจุดหนึ่งสู่อีกจุดหนึ่งในอวกาศ? ที่สัมพันธ์กับความเร็วของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในความรับรู้ของเรา? ?อวกาศสามมิติ? บวกมิติที่สี่ของเวลา รวมกับมิติที่ห้าของความรับรู้? จึงประกอบขึ้นเป็น ?เอกภพห้ามิติ? ( ที่ถูกรับรู้โดยจิตที่เป็นธาตุรู้ในตัวมนุษย์แต่ละคน)

– การอุบัติขึ้นของชีวิตเพื่อมารับรู้โลก? จึงมีความหมายเท่ากับเป็นกำเนิดของ ?เอกภพที่ ถูกรู้โดยมนุษย์? (ภายใต้วัฎจักรหนึ่งๆ) ?ในโรหิตัสสสูตร จตุถกนิบาต อังคุตตรนิกาย? พระพุทธเจ้าจึงตรัสแก่โรหิตัสส์เทวบุตรว่า? ?เราย่อมบัญญัติโลก? เหตุเกิดแห่งโลก? ความดับแห่งโลก? ปฏิปทาเครื่องให้ถึงความดับแห่งโลก? ในอัตภาพอันมีประมาณวาหนึ่ง (ของร่างกายมนุษย์)? ที่มีสัญญา (ความจำได้หมายรู้)? และมีใจ (จิตที่เป็นผู้รู้) เท่านั้น?

ad

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *